ทำอย่างไรเมื่ออินเวอร์เตอร์แจ้งเตือนหรือแสดงข้อผิดพลาด
อินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นหัวใจของระบบโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง (DC) ที่ผลิตจากแผงโซลาร์ให้เป็นกระแสสลับ (AC) ที่ใช้งานในบ้านหรือป้อนเข้าสายส่งของการไฟฟ้า หากอินเวอร์เตอร์เกิดปัญหา ระบบก็จะไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ การเข้าใจสาเหตุของข้อความแจ้งเตือน (Warning) หรือข้อผิดพลาด (Fault/Error) ที่ปรากฏบนหน้าจอหรือในแอปพลิเคชัน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
1. สังเกตข้อความบนหน้าจอหรือแอปพลิเคชัน
อินเวอร์เตอร์แต่ละรุ่นมักมีจอแสดงผล LCD หรือเชื่อมต่อกับแอป เช่น Growatt, Huawei, Fronius หรือ SMA โดยจะแสดงรหัสหรือข้อความผิดพลาด เช่น “Grid Over Voltage”, “PV Isolation Fault”, หรือ “No Utility” ควรจดบันทึกข้อความนั้นไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบปัญหา
2. ประเภทของข้อความแจ้งเตือนที่พบบ่อย
- Warning: เป็นการแจ้งเตือนระดับเบา ระบบยังคงทำงานต่อได้
- Fault/Error: ระบบหยุดทำงานชั่วคราว ต้องแก้ไขก่อนกลับมาใช้งานได้
3. สาเหตุและแนวทางแก้ไขเบื้องต้น
ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีตรวจสอบเบื้องต้น:
- 1. No Grid / Grid Fault: อินเวอร์เตอร์ไม่พบไฟจากการไฟฟ้า อาจเกิดจากไฟดับ, เบรกเกอร์ฝั่ง AC ถูกปิด, หรือสายขาด ควรตรวจสอบเบรกเกอร์ AC และเรียกช่างหากไม่พบสาเหตุ
- 2. PV Over Voltage: แรงดันจากแผงโซลาร์เกินขีดจำกัด ควรตรวจสอบการต่อแผงอนุกรมมากเกินไป หรือวัดแรงดันในช่วงเช้าขณะอุณหภูมิต่ำ
- 3. Grid Over Voltage: แรงดันจากการไฟฟ้าสูงเกินมาตรฐาน (มักเกิน 250V) อินเวอร์เตอร์จะหยุดผลิตไฟเพื่อความปลอดภัย สามารถติดตั้ง Voltage Stabilizer หรือแจ้งการไฟฟ้าตรวจสอบ
- 4. Isolation Fault: ความต้านทานระหว่างระบบกับกราวด์ต่ำ อาจเกิดจากสายไฟชำรุดหรือความชื้นเข้าแผง ต้องให้ช่างตรวจสอบด้วยเครื่องมือ Megger
- 5. Temperature High: อินเวอร์เตอร์ร้อนเกินไป ตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางช่องระบายอากาศ และติดตั้งในที่มีอากาศถ่ายเทดี
- 6. Ground Fault: ไฟรั่วลงดิน ต้องตรวจสอบระบบสายดินและระบบป้องกันไฟดูด
- 7. Communication Failure: อินเวอร์เตอร์ไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอปหรือเว็บ ควรรีเซ็ต Wi-Fi หรือเช็คสาย LAN
4. การรีเซ็ตอินเวอร์เตอร์
ในบางกรณีที่อินเวอร์เตอร์ “แฮงก์” หรือค้างอยู่ที่สถานะผิดปกติ การปิดระบบแล้วเปิดใหม่ตามลำดับจะช่วยให้ระบบกลับมาทำงานได้ ขั้นตอนคือ:
- ปิดเบรกเกอร์ AC (ฝั่งบ้าน)
- ปิดเบรกเกอร์ DC หรือสวิตช์แผงโซลาร์
- รอ 2–3 นาที แล้วเปิดใหม่โดยเริ่มจากฝั่ง DC ตามด้วย AC
หากยังไม่หายควรติดต่อผู้ติดตั้งหรือศูนย์บริการของอินเวอร์เตอร์โดยตรง
5. ใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบ
อินเวอร์เตอร์ยุคใหม่สามารถดูสถานะผ่านแอป เช่น:
- Growatt – ShinePhone
- Huawei – FusionSolar
- SolarEdge – Monitoring
- SMA – Sunny Portal
แอปจะแสดงรหัสข้อผิดพลาด พร้อมคำแนะนำเบื้องต้น และบางรุ่นสามารถรีโมตรีเซ็ตได้จากมือถือ
6. ควรติดต่อใครเมื่อพบปัญหา?
- ช่างติดตั้งเดิม: หากยังอยู่ในประกันหรือมีบริการหลังการขาย
- ศูนย์บริการของแบรนด์: สามารถแจ้งรหัสข้อผิดพลาดเพื่อให้คำแนะนำตรงจุด
- ช่างอิสระที่มีใบรับรอง: หากต้องการตรวจสอบเชิงลึก เช่น ตรวจการรั่วไฟ, แรงดัน, หรือ Thermal scan
7. การป้องกันปัญหาล่วงหน้า
- ติดตั้งในที่มีอากาศถ่ายเท
- ทำความสะอาดและตรวจสอบแผงสม่ำเสมอ
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (SPD)
- ดูแลสายไฟให้ปลอดภัย ไม่ให้หนูหรือสัตว์เข้าทำลาย
สรุป: เมื่ออินเวอร์เตอร์แสดงข้อผิดพลาด อย่าเพิ่งตกใจ เพราะหลายกรณีสามารถแก้ไขได้เองเบื้องต้น เช่น รีเซ็ตระบบ ตรวจสายไฟ ตรวจเบรกเกอร์ หรือใช้แอปวิเคราะห์ หากไม่สามารถแก้ไขได้ ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงต่อระบบ ทั้งนี้ การดูแลระบบอย่างสม่ำเสมอคือหัวใจของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างมั่นคงและปลอดภัย

